ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“รักด้วยการกระทำและด้วยความจริงใจ”

“รักด้วยการกระทำและด้วยความจริงใจ”

“อย่า​ให้​เรา​รัก​ด้วย​ลมปาก​เท่า​นั้น แต่​ให้​รัก​ด้วย​การ​กระทำ​และ​ด้วย​ความ​จริง​ใจ”—1 ยอห์น 3:18

เพลง 106, 100

1. ความ​รัก​แบบ​ที่​สูง​ส่ง​ที่​สุด​คือ​ความ​รัก​แบบ​ไหน? ขอ​อธิบาย (ดู​ภาพ​แรก)

พระ​ยะโฮวา​เป็น​แหล่ง​ของ​ความ​รัก ความ​รัก​เกิด​จาก​พระองค์ (1 ยอห์น 4:7) ความ​รัก​แบบ​ที่​สูง​ส่ง​ที่​สุด​อยู่​บน​พื้น​ฐาน​ของ​หลักการ​ที่​ถูก​ต้อง ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​มี​การ​เรียก​ความ​รัก​แบบ​นี้​ใน​ภาษา​กรีก​ว่า​อะกาเป ความ​รัก​แบบ​นี้​อาจ​เป็น​ความ​รู้สึก​อบอุ่น รู้สึก​ชอบ​และ​รัก​ใคร​คน​หนึ่ง แต่​ความ​รัก​แบบ​นี้​ไม่​ใช่​แค่​ความ​รู้สึก​อย่าง​เดียว ความ​รัก​แบบ​อะกาเป ต้อง​แสดง​ออก​ด้วย​การ​กระทำ​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น ความ​รัก​แบบ​นี้​แหละ​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​และ​ทำ​ให้​ชีวิต​เรา​มี​ความ​หมาย เพราะ​เรา​ถูก​กระตุ้น​ให้​ทำ​สิ่ง​ดี​ต่าง ๆ เพื่อ​คน​อื่น

2, 3. พระ​ยะโฮวา​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​อย่าง​ไร?

2 พระ​ยะโฮวา​แสดง​ว่า​รัก​มนุษย์​ตั้ง​แต่​ก่อน​ที่​พระองค์​จะ​สร้าง​อาดัม​กับ​เอวา​ด้วย​ซ้ำ พระองค์​สร้าง​โลก​ให้​มี​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​ที่​จำเป็น​เพื่อ​เรา​จะ​มี​ชีวิต​อยู่ ยิ่ง​กว่า​นั้น พระองค์​ยัง​ทำ​ให้​โลก​เป็น​บ้าน​ที่​เรา​ทุก​คน​จะ​อยู่​อาศัย​และ​มี​ความ​สุข​กับ​ชีวิต​ได้​จริง ๆ พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​เพื่อ​ตัว​พระองค์​เอง​แต่​ทำ​เพื่อ​พวก​เรา หลัง​จาก​ที่​สร้าง​โลก​เสร็จ พระองค์​ก็​สร้าง​มนุษย์​และ​ให้​พวก​เขา​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​อยู่​ใน​สวน​อุทยาน​บน​โลก​ตลอด​ไป

3 ถึง​แม้​ต่อ​มา​อาดัม​กับ​เอวา​จะ​กบฏ พระ​ยะโฮวา​ก็​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ต่อ​มนุษย์​ใน​วิธี​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด พระองค์​มั่น​ใจ​ว่า​จะ​มี​ลูก​หลาน​บาง​คน​ของ​พวก​เขา​รัก​พระองค์ พระองค์​จึง​จัด​ให้​มี​ค่า​ไถ่​ซึ่ง​ก็​คือ​ชีวิต​ของ​ลูก​ชาย​พระองค์​เพื่อ​ช่วย​มนุษย์​ให้​รอด (ปฐมกาล 3:15; 1 ยอห์น 4:10) ที่​จริง ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​พระ​ยะโฮวา​สัญญา​เรื่อง​ค่า​ไถ่ มัน​ก็​เหมือน​กับ​ว่า​ได้​มี​การ​สละ​ชีวิต​เป็น​ค่า​ไถ่​ไป​แล้ว และ​หลัง​จาก​นั้น 4,000 ปี พระ​ยะโฮวา​ก็​ให้​ชีวิต​ลูก​คน​เดียว​ของ​พระองค์​กับ​มนุษย์ (ยอห์น 3:16) พวก​เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​รัก​เรา​มาก​ขนาด​นี้

4. เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​สามารถ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ได้​ทั้ง ๆ ที่​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ?

4 เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​ได้​ไหม​ทั้ง ๆ ที่​เรา​เป็น​คน​ไม่​สมบูรณ์​แบบ? ได้​สิ พระ​ยะโฮวา​สร้าง​เรา​ตาม​แบบ​พระองค์ นั่น​แปล​ว่า​เรา​สามารถ​เลียน​แบบ​พระองค์​ได้ ถึง​มัน​อาจ​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​ที่​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว แต่​มัน​ก็​ไม่​ยาก​เกิน​ไป เรา​เห็น​เรื่อง​นี้​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​คน เช่น อาเบล​แสดง​ว่า​เขา​รัก​พระเจ้า​อย่าง​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​โดย​ถวาย​สิ่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​เขา​มี​ให้​พระองค์ (ปฐมกาล 4:3, 4) โนอาห์​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​โดย​การ​ประกาศ​ข่าวสาร​ของ​พระเจ้า​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ทั้ง ๆ ที่​ไม่​มี​ใคร​ฟัง (2 เปโตร 2:5) ส่วน​อับราฮัม​ก็​แสดง​ว่า​เขา​รัก​พระเจ้า​มาก​กว่า​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง เขา​เต็ม​ใจ​เสีย​สละ​แม้​กระทั่ง​อิสอัค​ลูก​ชาย​ของ​เขา (ยากอบ 2:21) เช่น​เดียว​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​เหล่า​นี้ เรา​ก็​อยาก​แสดง​ความ​รัก​แบบ​นี้​ถึง​แม้​มัน​จะ​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​ก็​ตาม

รัก​แท้​คือ​อะไร?

5. เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​แท้​ใน​วิธี​ไหน​บ้าง?

5 คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เกี่ยว​กับ​การ​แสดง​ความ​รัก​แท้​ว่า “อย่า​ให้​เรา​รัก​ด้วย​ลมปาก​เท่า​นั้น แต่​ให้​รัก​ด้วย​การ​กระทำ​และ​ด้วย​ความ​จริง​ใจ” (1 ยอห์น 3:18) นี่​หมาย​ความ​ว่า​เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​ด้วย​คำ​พูด​ไม่​ได้​เลย​ไหม? ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น (1 เธสะโลนิกา 4:18) ถ้า​เรา​อยาก​แสดง​ความ​รัก​แท้ เรา​ต้อง​ทำ​มาก​กว่า​การ​พูด​ว่า “ฉัน​รัก​เธอ” เรา​ต้อง​ทำ​อย่าง​ที่​พูด​จริง ๆ ตัว​อย่าง​เช่น ถ้า​พี่​น้อง​ของ​เรา​ไม่​มี​ข้าว​จะ​กิน ไม่​มี​เสื้อ​ผ้า​จะ​ใส่ คำ​พูด​ปลอบ​ใจ​จาก​เรา​อย่าง​เดียว​ก็​คง​ไม่​พอ เรา​ต้อง​ทำ​อะไร​มาก​กว่า​นั้น (ยากอบ 2:15, 16) คล้าย​กัน ถ้า​เรา​รัก​พระ​ยะโฮวา​และ​รัก​คน​อื่น เรา​จะ​ไม่​ใช่​แค่​อธิษฐาน​ขอ​ให้​มี​คน​มาก​ขึ้น​มา​ช่วย​เรา​ประกาศ แต่​ตัว​เรา​เอง​จะ​ประกาศ​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​ด้วย—มัทธิว 9:38

6, 7. (ก) “ความ​รัก​จาก​ใจ​จริง” เป็น​อย่าง​ไร? (ข) มี​ตัว​อย่าง​ของ​ใคร​บ้าง​ที่​แสดง​ความ​รัก​จอม​ปลอม?

6 อัครสาวก​ยอห์น​บอก​ว่า​เรา​ต้อง​รัก “ด้วย​การ​กระทำ​และ​ด้วย​ความ​จริง​ใจ” อัครสาวก​เปาโล​ก็​บอก​ด้วย​ว่า “ให้​รัก​คน​อื่น​ด้วย​ความ​จริง​ใจ” และ “มี​ความ​รัก​จาก​ใจ​จริง” (โรม 12:9; 2 โครินธ์ 6:6) บาง​คน​อาจ​เสแสร้ง​แกล้ง​ทำ​เป็น​รัก คน​แบบ​นี้​ใส่​หน้ากาก​เข้า​หา​คน​อื่น แต่​ความ​รัก​ที่​เขา​แสดง​เป็น​ความ​รัก​แท้​และ​จริง​ใจ​ไหม? อะไร​คือ​เจตนา​ของ​เขา? ความ​รัก​แบบ​ไม่​จริง​ใจ​ไม่​ได้​เรียก​ว่า​ความ​รัก ความ​รัก​จอม​ปลอม​เป็น​ความ​รัก​ที่​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย

7 ให้​เรา​มา​ดู​บาง​ตัว​อย่าง​ของ​ความ​รัก​จอม​ปลอม ตอน​ที่​ซาตาน​คุย​กับ​เอวา​ใน​สวน​เอเดน สิ่ง​ที่​มัน​พูด​ดู​เหมือน​ว่า​หวัง​ดี​กับ​เธอ แต่​สิ่ง​ที่​มัน​ทำ​กลับ​ตรง​กัน​ข้าม (ปฐมกาล 3:4, 5) ตอน​ที่​ดาวิด​เป็น​กษัตริย์ เขา​มี​เพื่อน​ชื่อ​อาหิโธเฟล แต่​อาหิโธเฟล​ทรยศ​ดาวิด​เพราะ​เห็น​แก่​ผล​ประโยชน์​ส่วน​ตัว สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​แสดง​ว่า​เขา​ไม่​ใช่​เพื่อน​แท้ (2 ซามูเอล 15:31) ใน​ทุก​วัน​นี้ คน​ที่​ออก​หาก​หรือ​เรียก​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ว่า​คน​ที่​ทรยศ​พระเจ้า รวม​ทั้ง​คน​อื่น ๆ ที่​สร้าง​ความ​แตก​แยก​ใน​ประชาคม​ก็​ชอบ “พูด​หวาน ๆ และ​ป้อยอ” (โรม 16:17, 18) คน​เหล่า​นี้​อาจ​ทำ​เป็น​ห่วงใย​คน​อื่น แต่​จริง ๆ แล้ว​เขา​คิด​ถึง​แต่​ตัว​เอง

8. มี​คำ​ถาม​อะไร​ที่​เรา​น่า​จะ​ถาม​ตัว​เอง?

8 ความ​รัก​จอม​ปลอม​เป็น​สิ่ง​ที่​น่า​เกลียด​มาก​เพราะ​มัน​เป็น​การ​หลอก​ลวง​คน​อื่น เรา​อาจ​หลอก​มนุษย์​ได้ แต่​เรา​หลอก​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้ พระ​เยซู​บอก​ว่า​พวก​คน​หลอก​ลวง​จะ​ถูก​ลง​โทษ “อย่าง​หนัก​ที่​สุด” (มัทธิว 24:51) พวก​เรา​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ไม่​อยาก​เป็น​คน​หลอก​ลวง​แบบ​นั้น ดัง​นั้น เรา​น่า​จะ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ความ​รัก​ที่​ฉัน​มี​เป็น​รัก​แท้​ไหม? หรือ​ฉัน​เป็น​คน​เห็น​แก่​ตัว​และ​หลอก​ลวง​คน​อื่น?’ ตอน​นี้ ขอ​เรา​มา​ดู 9 วิธี​ที่​เรา​จะ​แสดง “ความ​รัก​จาก​ใจ​จริง”

วิธี​แสดง​ความ​รัก “ด้วย​การ​กระทำ​และ​ด้วย​ความ​จริง​ใจ”

9. ความ​รัก​แท้​กระตุ้น​เรา​ให้​ทำ​อะไร?

9 มี​ความ​สุข​ที่​ได้​รับใช้​คน​อื่น​แม้​ไม่​มี​ใคร​เห็น​สิ่ง​ที่​คุณ​ทำ เรา​น่า​จะ​เต็ม​ใจ​ทำ​ดี​และ​ทำ​สิ่ง​ที่​แสดง​ว่า​เรา​รัก​คน​อื่น​ถึง​แม้​ไม่​มี​ใคร​เห็น​สิ่ง​ที่​เรา​ทำ (อ่าน​มัทธิว 6:1-4) อานาเนีย​กับ​สัปฟีรา​ไม่​ได้​คิด​แบบ​นั้น พวก​เขา​อยาก​ให้​คน​อื่น​รู้​ว่า​พวก​เขา​บริจาค และ​ถึง​กับ​โกหก​คน​อื่น​ว่า​บริจาค​เงิน​มาก​กว่า​ที่​ได้​ให้​จริง ๆ ใน​ที่​สุด​พวก​เขา​ก็​ถูก​ลง​โทษ​เพราะ​การ​โกหก​หลอก​ลวง (กิจการ 5:1-10) ถ้า​เรา​รัก​พี่​น้อง​ของ​เรา​จริง ๆ เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​ทำ​สิ่ง​ดี ๆ เพื่อ​พวก​เขา เรา​จะ​ไม่​คิด​ว่า​ต้อง​มี​คน​มา​เห็น​สิ่ง​ดี​ที่​เรา​ทำ เรา​สามารถ​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ของ​พี่​น้อง​ที่​ช่วย​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​เตรียม​ความ​รู้​ให้​กับ​เรา พี่​น้อง​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้​ให้​คน​อื่น​มา​สนใจ​ที่​ตัว​เขา เขา​ไม่​ให้​คน​อื่น​รู้​ว่า​ทำ​งาน​อะไร

10. เรา​จะ​ให้​เกียรติ​คน​อื่น​ได้​อย่าง​ไร?

10 ให้​เกียรติ​คน​อื่น (อ่าน​โรม 12:10) พระ​เยซู​ให้​เกียรติ​อัครสาวก​โดย​ล้าง​เท้า​ให้​พวก​เขา (ยอห์น 13:3-5, 12-15) เรา​น่า​จะ​พยายาม​จริง ๆ ที่​จะ​เป็น​คน​ถ่อม​ตัว​เหมือน​พระ​เยซู​และ​รับใช้​คน​อื่น เรื่อง​นี้​อาจ​จะ​ไม่​ง่าย แม้​แต่​พวก​อัครสาวก​ก็​ยัง​ไม่​เข้าใจ​อย่าง​เต็ม​ที่​ว่า​ทำไม​พระ​เยซู​ทำ​อย่าง​นั้น​จน​ถึง​ตอน​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า (ยอห์น 13:7) เรา​ให้​เกียรติ​คน​อื่น​โดย​ไม่​คิด​ว่า​เรา​ดี​กว่า​เขา​เพราะ​เรา​เรียน​สูง​กว่า รวย​กว่า หรือ​ได้​สิทธิ​พิเศษ​ใน​องค์การ​ของ​พระเจ้า (โรม 12:3) นอก​จาก​นั้น เรา​จะ​ไม่​อิจฉา​เมื่อ​เห็น​คน​อื่น​ได้​รับ​คำ​ชม แต่​เรา​จะ​ดีใจ​กับ​เขา​ถึง​แม้​เรา​อาจ​รู้สึก​ว่า​ตัว​เรา​ก็​ควร​ได้​รับ​คำ​ชม​เหมือน​กัน

11. ทำไม​เรา​ต้อง​ชมเชย​จาก​ใจ​จริง?

11 ชมเชย​จาก​ใจ​จริง เรา​ควร​หา​โอกาส​ชมเชย​คน​อื่น เรา​ทุก​คน​รู้​ว่า​คำ​ชมเชย​เป็น “สิ่ง​ดี ๆ ซึ่ง​ให้​กำลังใจ” (เอเฟซัส 4:29) แต่​เรา​ต้อง​แน่​ใจ​ว่า​คำ​ชม​ของ​เรา​มา​จาก​ใจ​จริง​ไม่​ใช่​แค่​พูด​เพื่อ​ยกยอปอปั้น​คน​อื่น เรา​ไม่​ควร​พูด​หรือ​ชมเชย​ใน​สิ่ง​ที่​จริง ๆ แล้ว​เรา​ไม่​ได้​คิด​อย่าง​นั้น และ​ไม่​ควร​หลีก​เลี่ยง​การ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ทั้ง ๆ ที่​เรา​มี​หน้า​ที่​ต้อง​ทำ (สุภาษิต 29:5) ถ้า​เรา​จะ​ชมเชย​คน​อื่น​ต่อ​หน้า แต่​พอ​ลับหลัง​เรา​ก็​กลับ​วิพากษ์วิจารณ์​เขา เรา​ก็​เป็น​คน​หน้า​ไหว้​หลัง​หลอก อัครสาวก​เปาโล​มี​ความ​รัก​แท้ ตอน​ที่​เขา​เขียน​จดหมาย​ถึง​คริสเตียน​ใน​โครินธ์ เขา​ชมเชย​พี่​น้อง​ที่​ทำ​สิ่ง​ดี ๆ (1 โครินธ์ 11:2) แต่​เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​ให้​คำ​แนะ​นำ เปาโล​ก็​อธิบาย​เหตุ​ผล​ใน​แบบ​ที่​นุ่มนวล​และ​ชัดเจน—1 โครินธ์ 11:20-22

เรา​แสดง​ความ​รัก​และ​แสดง​ความ​มี​น้ำใจ​โดย​การ​ช่วยเหลือ​พี่​น้อง​เมื่อ​พวก​เขา​ต้องการ (ดู​ข้อ 12)

12. เรา​จะ​แสดง​ความ​รัก​แท้​ได้​อย่าง​ไร​ตอน​ที่​แสดง​น้ำใจ?

12 มี​น้ำใจ​ต้อนรับ พระ​ยะโฮวา​ต้องการ​ให้​เรา​เป็น​คน​ใจ​กว้าง​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา (อ่าน 1 ยอห์น 3:17) แต่​เรา​ต้อง​มี​ความ​คิด​และ​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​กับ​การ​แสดง​น้ำใจ​กับ​คน​อื่น เรา​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘ฉัน​ชวน​เฉพาะ​เพื่อน​สนิท​หรือ​คน​ที่​ฉัน​คิด​ว่า​เป็น​คน​สำคัญ​ใน​ประชาคม​มา​ที่​บ้าน​ของ​ฉัน​ไหม? ฉัน​ชวน​เฉพาะ​คน​ที่​ฉัน​คิด​ว่า​เขา​จะ​ให้​อะไร​ฉัน​กลับ​คืน​มา​ไหม? หรือ​ฉัน​มี​น้ำใจ​กับ​พี่​น้อง​ทุก​คน​ถึง​แม้​ฉัน​จะ​ไม่​ได้​สนิท​กับ​เขา หรือ​เขา​จะ​ไม่​ได้​ให้​ผล​ประโยชน์​อะไร​กับ​ฉัน?’ (ลูกา 14:12-14) และ​ถ้า​พี่​น้อง​มี​ปัญหา​เพราะ​ตัดสิน​ใจ​ไม่​ฉลาด​มา​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เรา เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? หรือ​ถ้า​มี​พี่​น้อง​บาง​คน​ที่​เรา​ชวน​มา​ที่​บ้าน​แต่​เขา​ก็​ไม่​เคย​ขอบคุณ​เรา​เลย เรา​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร? พระ​ยะโฮวา​บอก​เรา​ว่า “ให้​ยินดี​ต้อนรับ​กัน​โดย​ไม่​บ่น” (1 เปโตร 4:9) เรา​จะ​มี​ความ​สุข​ถ้า​เรา​ได้​ให้​ด้วย​เจตนา​ที่​ถูก​ต้อง—กิจการ 20:35

13. (ก) เมื่อ​ไร​ที่​เรา​ต้อง​อด​ทน​อด​กลั้น​มาก​กว่า​ปกติ? (ข) เรา​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​ช่วย​คน​ที่​อ่อนแอ?

13 ช่วย​คน​อ่อนแอ วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​พิสูจน์​ว่า​เรา​มี​รัก​แท้​หรือ​ไม่ ก็​คือ​การ​ที่​เรา​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​บอก​ให้​เรา “ช่วยเหลือ​คน​อ่อนแอ และ​อด​กลั้น​กับ​ทุก​คน” (1 เธสะโลนิกา 5:14) พี่​น้อง​หลาย​คน​เคย​มี​ความ​เชื่อ​อ่อนแอ​แต่​ตอน​หลัง​มี​ความ​เชื่อ​เข้มแข็ง ส่วน​บาง​คน​ก็​ยัง​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เรา ซึ่ง​เรา​ต้อง​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​อด​ทน​อด​กลั้น​กับ​เขา​ต่อ ๆ ไป เรา​อาจ​จะ​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​ให้​กำลังใจ ชวน​เขา​มา​ประกาศ​กับ​เรา หรือ​เพียง​แค่​ให้​เวลา​ฟัง​เขา เรา​ไม่​ควร​คิด​ว่า​พี่​น้อง​คน​นั้น​เป็น​คน “เข้มแข็ง” ส่วน​คน​นี้​เป็น​คน “อ่อนแอ” แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น เรา​ควร​ยอม​รับ​ว่า​เรา​ทุก​คน​มี​ทั้ง​จุด​แข็ง​และ​จุด​อ่อน แม้​แต่​อัครสาวก​เปาโล​ก็​ยอม​รับ​ว่า​เขา​ก็​อ่อนแอ​ด้วย (2 โครินธ์ 12:9, 10) พวก​เรา​ทุก​คน​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​กำลังใจ​จาก​กัน​และ​กัน

14. เรา​ควร​เต็ม​ใจ​ทำ​อะไร​เพื่อ​รักษา​สันติ​สุข​กับ​พี่​น้อง​ของ​เรา?

14 สร้าง​สันติ​สุข สันติ​สุข​กับ​พี่​น้อง​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​มาก ถึง​แม้​เรา​อาจ​รู้สึก​ว่า​มี​คน​เข้าใจ​เรา​ผิด หรือ​รู้สึก​ว่า​เรา​ไม่​ได้​รับ​ความ​ยุติธรรม เรา​ก็​ควร​ทำ​ทุก​สิ่ง​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​สร้าง​สันติ​สุข​และ​อยู่​อย่าง​สงบ​สุข​กับ​ทุก​คน (อ่าน​โรม 12:17, 18) ถ้า​เรา​ทำ​ให้​คน​อื่น​เจ็บใจ​เรา​ต้อง​ขอ​โทษ​เขา แต่​คำ​ขอ​โทษ​ต้อง​มา​จาก​ใจ​จริง ตัว​อย่าง​เช่น แทน​ที่​จะ​พูด​ว่า “ขอ​โทษ​นะ ฉัน​เสียใจ​ที่​เธอ​รู้สึก​อย่าง​นี้” คง​ดี​กว่า​ที่​จะ​ยอม​รับ​ผิด​และ​พูด​ว่า “ขอ​โทษ​นะ ฉัน​เสียใจ​จริง ๆ ที่​พูด​ให้​เธอ​เจ็บ” สันติ​สุข​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​มาก​ใน​ชีวิต​คู่ สามี​ภรรยา​ไม่​ควร​ทำ​เป็น​รัก​กัน​ตอน​อยู่​ต่อ​หน้า​คน​อื่น แต่​พอ​อยู่​ด้วย​กัน​ตาม​ลำพัง​ก็​ไม่​ยอม​คุย​กัน พูด​กัน​แรง ๆ หรือ​ถึง​กับ​ลง​ไม้​ลง​มือ​กัน

15. เรา​จะ​แสดง​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​ให้​อภัย​จริง ๆ?

15 ให้​อภัย​อย่าง​ใจ​กว้าง ถ้า​มี​คน​ทำ​ให้​เรา​โกรธ เรา​ต้อง​ให้​อภัย​และ​ลืม​ความ​เจ็บใจ​นั้น​ให้​ได้ เรา​ควร​ทำ​แบบ​นี้​ถึง​แม้​คน​นั้น​จะ​ไม่​รู้​ตัว​เลย​ด้วย​ซ้ำ​ว่า​เขา​ทำ​ให้​เรา​โกรธ เรา​ให้​อภัย​อย่าง​ใจ​กว้าง​โดย “ยอม​ทน​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​รัก พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​ด้วย​พลัง​ของ​พระเจ้า และ​มี​สันติ​สุข​ที่​ผูก​พัน​คน​เรา​ให้​เป็น​หนึ่ง​เดียว” (เอเฟซัส 4:2, 3) เพื่อ​ที่​เรา​จะ​ให้​อภัย​จริง ๆ เรา​ต้อง​เลิก​คิด​ถึง​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​กับ​เรา ความ​รัก “ไม่​จด​จำ​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​เจ็บใจ” (1 โครินธ์ 13:4, 5) ที่​จริง การ​เก็บ​ความ​โกรธ​ไว้​ก็​มี​แต่​จะ​ทำลาย​ความ​สัมพันธ์​ที่​เรา​มี​กับ​พี่​น้อง​รวม​ทั้ง​ความ​สัมพันธ์​ที่​เรา​มี​กับ​พระ​ยะโฮวา (มัทธิว 6:14, 15) ถ้า​เรา​อธิษฐาน​เพื่อ​คน​ที่​ทำ​ให้​เรา​โกรธ​ก็​แสดง​ว่า​เรา​ให้​อภัย​เขา​จริง ๆ—ลูกา 6:27, 28

16. เรา​ควร​รู้สึก​อย่าง​ไร​กับ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา?

16 เสีย​สละ​ผล​ประโยชน์​ส่วน​ตัว ถ้า​เรา​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา เรา​สามารถ​พิสูจน์​ว่า​เรา​มี​รัก​แท้​โดย​การ​ไม่ “คิด​ถึง​แต่​ประโยชน์​ของ​ตัว​เอง​เท่า​นั้น แต่​ให้​คิด​ถึง​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​ด้วย” (1 โครินธ์ 10:24) ตัว​อย่าง​เช่น ที่​การ​ประชุม​หมวด​และ​การ​ประชุม​ภูมิภาค พี่​น้อง​ที่​ทำ​งาน​ใน​แผนก​ต้อนรับ​จะ​ได้​เข้า​ไป​ใน​หอ​ประชุม​ก่อน​คน​อื่น พวก​เขา​อาจ​รู้สึก​อยาก​จอง​ที่​นั่ง​ที่​ดี​ที่​สุด​ให้​ตัว​เอง​กับ​ครอบครัว แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น พวก​เขา​หลาย​คน​เลือก​ที่​ที่​ไม่​ค่อย​ดี​ซึ่ง​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ดู​แล การ​ที่​พวก​เขา​ทำ​อย่าง​นี้​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​ที่​ไม่​เห็น​แก่​ตัว คุณ​จะ​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​พวก​เขา​ได้​อย่าง​ไร?

17. ถ้า​คริสเตียน​ทำ​ผิด​ร้ายแรง ความ​รัก​แท้​จะ​กระตุ้น​เขา​ให้​ทำ​อะไร?

17 สารภาพ​บาป​และ​เลิก​ทำ​บาป​ลับ ๆ พี่​น้อง​บาง​คน​ได้​ทำ​บาป​ร้ายแรง​และ​พยายาม​ปก​ปิด​ไว้ นั่น​อาจ​เป็น​เพราะ​พวก​เขา​อาย​หรือ​ไม่​อยาก​ทำ​ให้​คน​อื่น​ผิด​หวัง (สุภาษิต 28:13) แต่​การ​ปก​ปิด​ความ​ผิด​ไม่​ได้​เป็น​การ​แสดง​ความ​รัก​เพราะ​มัน​ส่ง​ผล​เสีย​กับ​ทั้ง​คน​ที่​ทำ​ผิด​และ​คน​อื่น ๆ เพราะ​อะไร? พระ​ยะโฮวา​อาจ​ไม่​อวยพร​ประชาคม​โดย​ทาง​พลัง​บริสุทธิ์​และ​ประชาคม​ก็​จะ​ไม่​มี​ความ​สงบ​สุข (เอเฟซัส 4:30) ดัง​นั้น ถ้า​คริสเตียน​คน​ไหน​ทำ​ผิด​ร้ายแรง ความ​รัก​แท้​จะ​กระตุ้น​เขา​ให้​บอก​เรื่อง​นั้น​กับ​ผู้​ดู​แล​เพื่อ​จะ​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​จำเป็น—ยากอบ 5:14, 15

18. ความ​รัก​แท้​สำคัญ​ขนาด​ไหน?

18 ใน​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ทั้ง​หมด ความ​รัก​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด (1 โครินธ์ 13:13) ความ​รัก​ช่วย​ให้​คน​อื่น​รู้​ว่า​ใคร​เป็น​สาวก​แท้​ของ​พระ​เยซู และ​ใคร​เลียน​แบบ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ผู้​เป็น​แหล่ง​ของ​ความ​รัก (เอเฟซัส 5:1, 2) เปาโล​บอก​ว่า​ถ้า​เขา​ไม่​มี​ความ​รัก เขา​ก็​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย (1 โครินธ์ 13:2) ขอ​เรา​ทุก​คน​แสดง​ความ​รัก​ต่อ ๆ ไป และ​ไม่​ใช่​แค่ “รัก​ด้วย​ลมปาก​เท่า​นั้น แต่​ให้​รัก​ด้วย​การ​กระทำ​และ​ด้วย​ความ​จริง​ใจ”