ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณรู้ไหม?

คุณรู้ไหม?

เฮโรดเจอปัญหาอะไรในการสร้างวิหารขึ้นใหม่?

ตอนแรก โซโลมอนสร้างวิหารที่กรุงเยรูซาเลมไว้บนภูเขาและสร้างกำแพงกันดินถล่มไว้ทางตะวันออกและตะวันตกของภูเขาเพื่อจะมีลานยกระดับรอบ ๆ วิหาร แต่เฮโรดอยากสร้างวิหารหลังนี้ให้อลังการกว่าของโซโลมอน เขาจึงเริ่มออกแบบและสร้างใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม

วิศวกรของเฮโรดขยายพื้นที่ราบทางเหนือของวิหารเพื่อจะได้มีบริเวณลานวิหารใหญ่ขึ้น ส่วนลานทางใต้ก็ขยายออกไปอีก 32 เมตร เพื่อจะทำอย่างนี้ได้จึงมีการสร้างกำแพงหินกันดินถล่มที่หนามากและทำช่องคล้ายอุโมงค์ไว้ที่กำแพงนั้น บางช่วงของกำแพงนี้สูงถึง 50 เมตร

เฮโรดพยายามที่จะไม่ทำให้คนยิวเสียความรู้สึก หรือไม่ให้มีอะไรไปรบกวนการทำพิธีทางศาสนาที่วิหาร นักประวัติศาสตร์ชาวยิวที่ชื่อโยเซฟุสบอกว่าเฮโรดถึงกับฝึกปุโรหิตให้เป็นช่างก่อหินและช่างไม้ เพื่อไม่ให้คนงานที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ได้

เฮโรดไม่ได้มีชีวิตอยู่จนเห็นโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ เขาตายหลังจากที่พระเยซูเกิดเพียงไม่กี่ปี อะกริปปาที่สองเหลนของเฮโรดเป็นคนสร้างต่อจนเสร็จในช่วงกลางศตวรรษแรก

ทำไมผู้คนบนเกาะมอลตาคิดว่าอัครสาวกเปาโลเป็นฆาตกร?

เทพีแห่งความยุติธรรม (ซ้าย) สู้กับเทพีแห่งความอยุติธรรม

บางคนบนเกาะมอลตามีความเชื่อบางอย่างคล้ายกับศาสนาของคนกรีก ขอให้นึกถึงเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ในหนังสือกิจการตอนที่เปาโลเรือแตกแล้วต้องติดอยู่ที่เกาะมอลตา เมื่อเปาโลหยิบกิ่งไม้แห้งมัดหนึ่งมาใส่กองไฟเพื่อคลายหนาวให้คนที่ติดเกาะอยู่ด้วยกัน งูพิษตัวหนึ่งกัดติดอยู่กับมือเปาโล ตอนนั้นเองชาวเกาะพูดกันว่า “คนนี้ต้องเป็นฆาตกรแน่ ๆ เพราะถึงแม้ว่าเขารอดตายจากทะเล เจ้าแห่งความยุติธรรมก็ยังไม่ปล่อยให้มีชีวิต”—กิจการ 28:4, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

คำว่า “ยุติธรรม” ในที่นี้มาจากคำภาษากรีกคือ “ไดคี” ซึ่งความหมายโดยทั่วไปคือความเที่ยงธรรม แต่ในเทพนิยายกรีก ไดคีเป็นชื่อของเทพีแห่งความยุติธรรม เธอจะคอยดูการกระทำต่าง ๆ ของมนุษย์และรายงานเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อซูส เพื่อคนที่ทำผิดจะได้รับการลงโทษ ตามที่แหล่งอ้างอิงหนึ่งบอกไว้ ชาวเกาะมอลตาอาจคิดว่า “แม้เปาโลจะรอดจากทะเล แต่เทพีไดคี ก็อยากจะเอาชีวิตเขา . . . โดยใช้งูพิษ” แต่ผู้คนก็เปลี่ยนความคิดเมื่อเห็นว่าเปาโลไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย